เที่ยวภูฏาน 6วัน
เยือนหุบเขาฮา-ทิมพู-วังดี-พูนาคา-พาโร
โดยสายการบิน Druk Air
วันที่1 ? กรุงเทพฯ ? พาโร ?หุบเขาฮา (65km/3hr)(L/D) |
05:30น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 แถว W ประตู 9 เช็คอินสายการบินDruk Airสายการบินแห่งชาติภูฏาน กรุงเทพฯ-พาโรเที่ยวบินที่ KB 127
07:20น. เหินฟ้าสู่เมืองพาโร
08:50น. เครื่องแวะรับผู้โดยสารเพิ่มที่ Dhaka, Bangladesh ใช้เวลา 30 นาที ผู้โดยสารไม่ต้องลงจากเครื่อง
09:20น. เครื่องบินเหินฟ้าต่อไปยังเมืองพาโร
10:20น. เดินทางถึงเมืองพาโร (2,280m)
ตอนนำเครื่องลงท่านจะได้สัมผัสกับขุนเขาอันกว้างใหญ่ใกล้แค่เอื้อม ดุจดั่งเข้าสู่อ้อมกอดของหุบเขาแห่งเมืองพาโร สำหรับท่านที่รักการถ่ายภาพ ความอลังการของทิวทัศน์จะทำให้ท่านได้ภาพที่งดงาม อัศจรรย์ที่สุดภาพหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้
ท่านจะได้รับการประทับตราวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่พาโร เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับอยู่ที่สนามบิน จากนั้นขับรถมุ่งหน้าไปสู่หุบเขาฮา ทิวทัศน์สองข้างทางสวยงามจับใจ อาจได้เห็นฝูงจามรีระหว่างทาง ผ่านถนนที่สูงที่สุดของภูฎานที่ช่องเขา เชเลลาพาส (3810m)
แต่เดิมหุบเขาฮาเป็นไม่อนุญาติให้ชาวต่างชาติเข้าไปท่องเที่ยว จนเมื่อปี2001 รัฐบาลภูฎานได้เปิดพื้นที่ให้โอกาสนักท่องเที่ยวต่างถิ่นได้สัมผัสชีวิตที่ยังไม่ถูกเจือปนจากโลกภายนอก หุบเขาฮาเป็นที่ประทับของพระมารดาของพระราชินีในรัชกาลที่4ห้อมล้อมด้วยป่าเขา เต็มไปด้วยศาลเจ้าเก่าแก่โบราณ ในหุบเขาจะเห็นทุ่งข้าวฟ่าง ข้าวบาร์เล่ย์ และไร่มันฝรั่ง บ้านเรือนแถบนี้งดงามมากด้วยขอบบัวไม้ที่มีภาพวาดอันสลับซับซ้อน และขอบหน้าต่างที่แกะสลักอย่างวิจิตร เมื่อถึงที่เราจะลงเดินเพื่อสำรวจความมหัศจรรย์ของหุบเขาแห่งนี้ผ่านหมู่บ้านเล็กๆและวัด Black & White เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพทิวทัศน์ดอกไม้และสัตว์ประจำถิ่น จากนั้นเช็คอินเข้าที่พัก คืนนี้ค้างคืนที่หุบเขาฮา (Alt; 2670m)
วันที่ 2? หุบเขาฮา ? ทิมพู (102km/ 3-4hr) (B/L/D) |
หลังอาหารเช้า เดินทางสู่เมืองหลวงของภูฎาน ชมวิวเมืองทิมพูที่Buddha Gang หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังหอสมุดแห่งชาติซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาเอกสารโบราณท่านจะได้ชมหนังสือภาพภูฎานที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากนั้นไปยังZoring Chuksumโรงเรียนสอนศิลปะหัตถกรรม13ชนิดต่อด้วยการเยี่ยมชมศูนย์สิ่งทอเพราะภูฎานมีชื่อเสียงเรื่องผ้าทอมือมากโดยปรกติแล้วทุกครัวเรือนจะทอผ้าเพื่อไปตัดเย็บชุดประจำชาติเองโดยแต่ละผืนใช้เวลาประมาณ9-12 เดือนทีเดียวแล้วแวะไปชมศูนย์หัตถกรรมจากนั้นนำท่านสู่ป้อมทาชิโช ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่ใช้ทรงงานของกษัตริย์ประกอบไปด้วยท้องพระโรงและศาสนสถานอยู่ภายในเดินทางต่อเพื่อชมสนามกีฬาChanglingmethangเดินเที่ยวชมย่านใจกลางเมืองทิมพูเข้าพักโรงแรมที่เมืองทิมพู(Alt; 2320m)
วันที่ 3?ทิมพู-วังดี (70km/3hrs) |
เช้าตรู่ไปชมวิวจากจุดชมวิวอีกจุดหนึ่งที่หอคอยBBSซึ่งเป็นที่หนุ่มสาวขนานนามว่าเป็นสถานที่โรแมนติกหรือRomantic Pointเป็นอีกจุดที่เราจะได้บันทึกภาพเมืองทิมพูทั้งเมืองแล้วไปเที่ยวชมสัตว์ประจำชาติภูฏานที่สวนสัตว์ทาคินชมตัวทาคินสัตว์ประจำชาติของประเทศภูฏานจากนั้นไปเยี่ยมชมวัดแม่ชีและชมMemorial Chortenอนุสรณ์สถานที่สร้างในปี1974เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับอดีตกษัตริย์ภูฏานองค์ที่สามที่ล่วงลับผ่านที่ทำการไปรษณีย์ที่ท่านนักสะสมแสตมป์สามารถหาซื้อแสตมป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้ที่นี่หรือท่านที่อยากซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกก็ได้เพราะแสตมป์ภูฎานนั้นนักสะสมรู้ดีว่าเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก
จากนั้นเดินทางไปยังเมืองวังดี แวะ โดชูลาพาสที่ระดับความสูง 3150 เมตรจากระดับน้ำทะเล ชม 108 สถูปสถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเมืองปีค.ศ.2005 เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับทหารวีรชนชาวภูฏานที่เสียชีวิตจากสงครามอัสสัม ชมความงามของวัดดรุกวังเยลลาคังที่ราชินีในรัชกาลที่4 สร้างถวายแด่กษัตริย์องค์ที่4ด้านในวัดมีภาพเขียนของเจ้าหญิงและเจ้าชายทุกพระองค์ในรูปของนางฟ้าและเทวดา และภาพเขียนเล่าเรื่องราวประวัติของภูฎาน แวะดื่มชา/กาแฟพร้อมดื่มด่ำธรรมชาติทิวทัศน์ของภูเขาหิมาลัยด้านตะวันตกอันตระการตา พร้อมยอดเขาต่างๆเรียงราย รวมไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดอย่างโชโมฮารี(7328 เมตร) ทิวทัศน์ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยความสวยงามของต้นไม้ในเขตอัลไพน์สลับกับพืชเขตร้อน
ถึงเมืองวังดี เดินเล่นในตัวเมืองวังดี คืนนี้พักที่เมืองวังดี (Alt; 1240m)
วันที่ 4 ?วังดี ?พูนาคา - ทิมพู (70km/3hrs) |
เช้าตรู่หลังอาหารเช้าเยี่ยมชมป้อมWangduephodran Dzongจากนั้นเดินทางสู่เมืองพูนาคาที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเยี่ยมชมป้อมพูนาคาซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นวังแห่งความสุข? Palace of Great Happiness? และเป็นหนึ่งในป้องปราการที่สวยงามที่สุดในภูฏานเป็นป้อมที่สร้างเป็นอันดับสองของภูฏานในอดีตเมื่อครั้งเมืองพูนาคายังเป็นเมืองหลวงป้อมแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาลปัจจุบันเป็นที่พักในฤดูหนาวของพระชั้นผู้ใหญ่ป้อมนี้ตั้งอยู่ณบริเวณที่แม่น้ำPhochu และแม่น้ำMochu ไหลมาบรรจบกันจากนั้นเดินทางไปยังเมืองทิมพู ผ่าน 108สถูปเพื่อชมวิวของเทือกเขาหิมาลัยอีกครั้ง ระหว่างทางแวะเที่ยวป้อมซิมโตคาซึ่งเป็นป้อมปราการที่เก่าแก่ที่สุด สร้างในปี 1629 ปัจจุบันเป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนสอนศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถึงเมืองทิมพู เดินเล่นช้อปปิ้งของที่ระลึกในตัวเมืองทิมพู เช็คอินเข้าที่พักในเมืองทิมพู (Alt; 2320m)
วันที่ 5? ทิมพู ? พาโร (54km/1hr) |
เช้าตรู่มุ่งหน้าเข้าเมืองพาโร ระหว่างทางแวะเที่ยวชมสะพานแขวนอันศักดิ์สิทธิ์ ที่วัด Tamchok lhakhang จากนั้น เที่ยว ป้อมรินปุง(ป้อมแห่งอัญมณี) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Paro Dzongจากนั้นนำท่านเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์Ta Dzongซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในเอเชียและวัดKichu Lhakhanหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศภูฏานสร้างโดยกษัตริย์ธิเบตในปีค.ศ.659ท่านจะได้พบกับต้นส้มศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุถึง 600ปี แต่ยังให้ผลตลอดทั้งปีจากนั้นไปยังวัดดังเซ่ลาคังเป็นวัดที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1433 โดยท่านทังทง เกลโป ผู้คิดค้นและสร้างสะพานเหล็กในภูฎาน วัดนี้เป็นอาคารสามชั้นแทนสัญญลักษณ์ของนรก โลก และสวรรค์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่โดดเด่นอยู่ภายใน และแวะชม Drukqyel Dzong ซึ่งเป็นป้อมปราการโบราณอยู่ห่างจากเมืองพาโร16 กิโลเมตรแม้นว่าจะเหลือเพียงซากปรักหักพังป้อมปราการแห่งนี้ยังคงความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือเป็นสถานที่ที่ชาวภูฎานเอาชนะและขับไล่ชาวธิเบตที่เข้ามารุกรานในวันที่อากาศสดใสท่านจะมองเห็นภูเขาChomolhari (ภูเขาแห่งเทพธิดา) ความสูง7,328เมตรจากนั้นแวะเที่ยว Satsam Chortenเพื่อชมวัดทักซัง หรือ วัดถ้ำเสือ Tiger?s Nest จากด้านล่าง วัดทักซังเป็นศาสนสถานที่มหัศจรรย์ เพราะตัววัดเหมือนเกาะอยู่บนหน้าผาหินที่มีความสูงถึง 900 เมตรวัดจากที่ราบพาโรตำนานกล่าวไว้ว่าท่าน Guru Padmasambhavaหรือ พระปทุมสมภพในภาคยักษ์ หรือพระศาสดาองค์ที่สองตามความเชื่อของชาวภูฏาน ได้เหาะมาบนหลังเสือตัวเมีย มายังหน้าผาแห่งนี้เพื่อทำวิปัสนากรรมฐาน จึงได้ชื่อว่าถ้ำเสือ หลังจากที่สำเร็จสมาธิแล้ว ท่านจึงได้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ขึ้น ชาวภูฏานส่วนใหญ่มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะได้ขึ้นมาแสวงบุญที่ Taksang สักครั้งหนึ่งในชีวิตรับประทานอาหารเย็นสไตล์ภูฎานที่บ้านชาวนา ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านและชิม อาร่า เหล้าพื้นบ้านของชาวภูฎานคืนนี้ค้างคืนที่เมืองพาโร(Alt; 2280m)
หมายเหตุโรงแรม มีบริการการอาบน้ำแร่หิน หรือ Stone bathหรือเรียกว่า Chu Tsen ที่ขึ้นชื่อของภูฎานอีกด้วย โดยจะนำหินจากแม่น้ำที่มีแร่ธาตุอุดมอยู่มากมายมาแช่ลงในน้ำอุ่นจนกลายเป็นน้ำแร่ และให้ท่านลงไปแช่ อาบในอ่างไม้ผสมกับสมุนไพรตามสไตล์ชาวภูฎาน โดยเชื่อว่าจะช่วยบำรุงผิวพรรณ และรักษาโรคผิวหนังได้ดี (หากสนใจจะแช่น้ำแร่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละประมาณ USD$12-15โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง-หนึ่งชั่วโมง)เดินเล่นในตัวเมืองพาโร คืนนี้พักที่พาโร (Alt; 2280m)
หลังอาหารเช้านำท่านสู่สนามบินนานาชาติพาโร
09:30น. เช็คอินที่สนามบินพาโร สายการบิน Druk Air เที่ยวบินที่ KB140 พาโร-กรุงเทพฯ
11:30น. เครื่องบินเหินฟ้าจากสนามบินพาโร
11:55น. เครื่องแวะรับ/ส่งผู้โดยสารที่ Guwahati, India เป็นเวลา30นาที
12:25น. เครื่องบินเหินฟ้าจากสนามบินGuwahati
16:55น. เดินทางถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ
**********************************
รายการท่องเที่ยวนี้อาจเปลี่ยนแปลงหรือสลับกันได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ถือเป็นเอกสิทธิ์ของผู้จัด
โดยยึดถือตามสภาพการณ์และประโยชน์ของท่านเป็นสำคัญ
**ไม่ถึง 15 ท่านไม่มีผู้นำทัวร์จากเมืองไทย
อัตรานี้รวม ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ/ค่าภาษีสนามบินทุกแห่ง/ค่ารถนำเที่ยวภายในภูฏาน/ไกด์ภาษาอังกฤษ
ค่าโรงแรมที่พัก (2ท่านต่อ 1ห้อง)/ ค่าวีซ่าภูฏาน / ค่าบัตรเข้าชมสถานที่เที่ยว/
ค่าอาหารมาตรฐานตามรายการ/ประกันการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท
อัตรานี้ไม่รวม ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ นอกเหนือจากรายการ/ ค่าน้ำหนักเกินกว่าสายการบินกำหนด 20kg./
ค่าทิปไกด์และคนขับรถ/ค่าโทรศัพท์/ค่าซักรีด/เครื่องดื่มนอกเหนือจากรายการ/ค่าม้าขึ้นวัดทัก
-ซัง/ค่าอาบน้ำแร่หิน/ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีบริการ 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
เอกสารที่ใช้ยื่นวีซ่า
- หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานเหลือมากกว่า 6 เดือน ก่อนวันเดินทางกลับ
- สแกนสี หรือถ่ายรูปหน้าพาสปอร์ตสี ด้วยความละเอียดสูง หน้าที่มีรูปของท่านพร้อมรายละเอียด
- สแกนสี หรือ ถ่ายรูปสี รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา ไม่เห็นฟัน พื้นหลังเป็นสีพื้นหรือสีขาว ด้วยความละเอียดสูง
- แจ้งรายละเอียดเพื่อกรอกฟอร์มวีซ่าดังนี้: ที่อยู่ปัจจุบัน/ตำแหน่งงาน/ชื่อบริษัทหรือองค์กรที่ทำงาน/วุฒิการศึกษา/สถานที่ออกพาสปอร์ต
ส่งหลักฐานมายังอีเมล์ md@thephoenix999.net และส่งต้นฉบับมาทางไปรษณีย์
- ชำระค่าทัวร์เต็มจำนวนอย่างน้อย 4สัปดาห์ก่อนก่อนวันเดินทาง และ 8 อาทิตย์ก่อนวันเดินทางในช่วงเทศกาล เพราะนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากจากทั่วโลก
ขั้นตอนการทำวีซ่า
- ผู้จัดจะดำเนินการเรื่องการขอวีซ่าแทนท่านโดยเอกสารทั้งหมดตรงไปยังภูฎานทางออนไลน์ โดยวีซ่าจะขอได้เฉพาะผ่านบริษัททัวร์เท่านั้น
- รัฐบาลภูฏานจะทำวีซ่าให้ก็ต่อเมื่อได้รับการชำระค่าทัวร์ 100% แล้วเท่านั้น
- ค่าวีซ่าได้รวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว และท่านจะได้รับตราประทับวีซ่าเมื่อไปถึงสนามบินพาโร หรือ Phuentsholing (หากเดินทางทางรถยนต์)
- ยอดชำระเต็มต้องถูกส่งไปให้ทางภูฏานล่วงหน้าอย่างน้อย 4 อาทิตย์ก่อนวันเดินทาง และ 8 อาทิตย์ก่อนวันเดินทางในช่วงเทศกาล เพราะนักท่องเที่ยวมาก
สำหรับเสื้อผ้าสำหรับเข้าไปตามป้อม หรือ Dzong ต่างๆ (ซึ่งต้องเข้าทุกวัน)
ผู้หญิง : เสื้อแขนยาว หรือ แขนสามส่วน (เลยข้อศอกลงมา) มิเช่นนั้นก็สวมเสื้อแจ๊คเก็ตทับได้
ผู้ชาย : เสื้อมีปก มิเช่นนั้นก็สวมเสื้อแจ๊คเก็ตทับได้
- กางเกง : กางเกงขายาว
- รองเท้า : รองเท้าหุ้มส้น
ห้ามใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น รองเท้าแตะ
สิ่งที่ควรเตรียม
ร่มคันเล็ก, ไฟฉาย, กล้องถ่ายภาพ พร้อมอุปกรณ์เช่นแบตเตอรี่ การ์ดหน่วยความจำ, แว่นกันแดด, ครีมกันแดด, ยาประจำตัว, รองเท้าผ้าใบ, ถุงเท้า, หมวกกันแดด
เงื่อนไขการให้บริการ
1. กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และล่วงหน้า 8 สัปดาห์ในช่วงเทศกาล ก่อนการเดินทาง พร้อมชำระยอดเต็มล่วงหน้าอย่างน้อย 3 สัปดาห์ เนื่องจากรัฐบาลภูฏานจะออกวีซ่าให้ก็ต่อเมื่อชำระยอดทั้งหมดแล้ว
2. 2.เงื่อนไขการยกเลิก
2.1 ยกเลิกก่อนการเดินทางภายใน 30วัน เก็บค่าเสียหาย ท่านละ 20%ของราคาทัวร์
2.2 ยกเลิกก่อนการเดินทางภายใน 21วัน เก็บค่าเสียหาย 30%ของราคาทัวร์
2.3 ยกเลิกก่อนการเดินทางภายใน 7 วัน เก็บค่าเสียหาย 50% ของราคาทัวร์
2.4 ยกเลิกวันเดินทาง เก็บค่าเสียหาย 100%ของราคาทัวร์
3. เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการคืนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
4. กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งที่ กรุงเทพฯ และในต่างประเทศปฎิเสธมิให้เดินทางออกหรือเข้าประเทศที่ระบุในรายการเดินทาง ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าบริการไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
หมายเหตุ
- ของเหลว เจล และเสปรย์ ทุกชนิด กรุณานำใส่กระเป๋าสัมภาระ กรณีที่จะนำติดตัวไปให้บรรจุใส่ถุงพลาสติกใสเปิด-ปิดผนึกได้ ไม่เกิน 1 ถุง ปริมาณที่ระบุไว้บนภาชนะที่ใส่ชิ้นละไม่เกิน 100ml/g รวมไม่เกิน 1,000ml/g
- สายการบินดรุกแอร์ อนุญาติให้นำสัมภาระโหลดขึ้นเครื่องได้ด้วยน้ำหนักไม่เกิน 20kg.
- สายการบินดรุกแอร์ อนุญาติให้นำสัมภาระติดตัวขึ้นไปยังห้องผู้โดยสารบนเครื่องบินได้อีกคนละ 1ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 5kg และขนาดไม่เกิน 45cmx30cmx20cm
|